ลูกมีปัญหาเพราะว่าเลี้ยงดูไม่ดี

เด็กที่มีปัญหาพฤติกรรมมักจะเห็นต่อเนื่องมาตั้งแต่เล็ก เริ่มจากน้อยๆ แล้วค่อยขยายมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น เด็กอันธพาลมักจะเริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าว เกเร ละเมิดสิทธิผู้อื่น ละเมิดกฎเกณฑ์ตั้งแต่ชั้น ป.1-ป.2 มาเรื่อยๆ บางปัญหาเห็นตั้งแต่ระดับอนุบาล ความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพ่อแม่ดูแลไม่ถูกต้อง ทำให้เด็กเกิดความรู้สึกไม่ดีต่อตนเอง เก็บกด และโกรธแค้นต่อสิ่งแวดล้อม สะสมต่อเนื่องกันมานาน บางครั้งอาจจะแสดงออกเป็นอาการต่างๆ เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และจะเห็นเป็นพฤติกรรมรุนแรงมากตอนวัยรุ่น

ดังนั้น ปัญหาเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ส่วนใหญ่มักเกิดจากรากฐานการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสมมาตั้งแต่เด็ก เช่น ละเลยเด็ก ก้าวร้าวรุนแรง ไม่สม่ำเสมอ ตามใจมากจนเกินไป ส่วนที่บางคนพบว่าวัยเด็กดีมาก่อน มาเสียตอนวัยรุ่นนั้น มีได้ไม่มาก อาจเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้


ลูกมีปัญหาเพราะว่าเลี้ยงดูไม่ดี

1. ที่ว่าตอนเด็กเลี้ยงดีแล้วนั้น ความจริงเลี้ยงไม่ดี แต่ตอนเด็กไม่มีปัญหา เช่นที่พบมากคือพ่อแม่ที่เข้มงวดเกินไป ก้าวร้าวรุนแรงมาก เด็กมักจะกลัวและยอม แต่สะสมความโกรธและความก้าวร้าวไว้ในใจ เมื่อถึงวัยรุ่น ซึ่งเขาจะเป็นตัวของตัวเองอย่างมาก เริ่มเรียนรู้จากภายนอกว่า สิ่งที่เขาโดนกระทำจากพ่อแม่นั้นไม่ถูกต้อง ไม่ยุติธรรม เขาจะแสดงออกโดยการตอบโต้ทั้งทางเงียบและทางรุนแรง การตอบโต้ทางเงียบ เช่น กลายเป็นโรคประสาทบางประเภท โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคเครียด ซึ่งอาการจะแสดงออกทำให้ตัวเองเดือดร้อน หรือบางทีก็ใช้วิธีดื้อเงียบ ไม่ยอมทำตามคำสั่งพ่อแม่ การตอบโต้ทางรุนแรง เช่น การแสดงออกที่ก้าวร้าว รุนแรง ทั้งทางร่างกาย วาจา และการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายต่างๆ ประเภทนี้ผมพบได้บ่อยๆ พ่อแม่มักจะคิดว่าตนเองเลี้ยงลูกมาถูกต้องดีแล้วทุกประการ แต่เมื่อค่อยๆ คุยกันถึงเทคนิควิธีการเลี้ยงลูกก็มักจะพบความไม่ถูกต้องซ่อนอยู่โดยพ่อแม่ไม่รู้

2. พ่อแม่เลี้ยงดีแล้วก็จริง แต่เมื่อโตขึ้นเกิดการเจ็บป่วยเป็นโรคทางจิตเวชภายหลัง มีโรคทางจิตเวชหลายโรคที่มาเกิดขณะเป็นวัยรุ่นเช่นโรคจิตเภท โรคซึมเศร้า โรคเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากปัญหาการเลี้ยงดู แต่เกิดจากปัจจัยร่างกายภายใน ดังนั้น ไม่ว่าจะเลี้ยงดูมาดีแค่ไหนก็อาจเกิดโรคนี้ได้

3. เด็กถูกเลี้ยงดูมาดีจริง แต่มีปัญหาทางสังคมเกิดขึ้นรุนแรงในภายหลัง ทำให้เด็กเกิดอาการทางจิตใจอารมณ์ขึ้นมา เช่น เด็กที่เผชิญกับความเครียดรุนแรง หรือครอบครัวเกิดปัญหามากๆ แบบนี้เขาก็มีโอกาสเกิดปัญหาได้เช่นกัน ในข้อ 2 และข้อ 3 นั้น ถึงพ่อแม่จะไม่สามารถแก้ไขเหตุได้ แต่การเตรียมตัวเขามาให้ดีตั้งแต่เกิด ก็จะช่วยลดความรุนแรงและช่วยให้การช่วยเหลือทำได้ง่ายครับ

4. พ่อแม่ไม่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงตามปกติของวัยรุ่น คิดว่าลูกผิดปกติ เช่น เด็กอยากเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เด็กอยากเป็นอิสระ สนใจแฟชั่น กีฬา ดารา นักร้อง ฯลฯ เด็กเริ่มมีอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย เด็กเริ่มเถียง พูดไม่ไพเราะ ฯลฯ ข้อนี้พ่อแม่ต้องกลับมาพิจารณาตัวเอง เพราะความผิดปกติอยู่ที่พ่อแม่ ต้องพยายามทำความเข้าใจให้ดี และหาทางตอบโต้พฤติกรรมต่างๆ อย่างเหมาะสม เด็กวัยรุ่นก็จะผ่านวิกฤตการณ์ช่วงนี้ไปได้ดี


อย่างไรก็ตาม ยังเห็นด้วยกับคุณพ่อคุณแม่ ที่เริ่มต้นด้วยความเชื่อที่ว่า ถ้าเราเลี้ยงลูกได้ถูกต้องดีแล้ว โอกาสจะเปลี่ยนแปลงไปในทางลบคงจะมีน้อย ถึงมีก็แก้ไขได้ง่าย สิ่งแวดล้อมในสังคมบางอย่างเราสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ เราทุกคนก็ควรช่วยกัน เพื่อให้เด็กและวัยรุ่นอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี โอกาสจะเกิดปัญหาก็ยิ่งน้อยลง แต่สิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีบางอย่างยังคงมีอยู่ สิ่งที่เราจะช่วยลูกหลานของเราได้ คือการสอนให้เข้ารู้จักปรับตัวกับสิ่งเหล่านี้ รูจักยับยั้งใจตัวเอง รู้จักหลีกเลี่ยงสิ่งไม่ดี และรู้หลบหลีกเอาตัวรอดจากภัยให้ได้"


ที่มา : กรมสุขภาพจิต