เลี้ยงลูกอย่างไรให้มีจิตใจเข้มแข็ง

 

ในชีวิตคนเราต้องผ่านความยากลำบากเป็นเรื่องธรรมดา ความเข้มแข็งในจิตใจของแต่ละคนจะทำให้เราผ่านเรื่องเหล่านั้นไปได้ การรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของแต่ละคน เรามาสร้างพื้นฐานให้ลูกของเรามีความเข็มแข็งกัน ด้วยแนวทางดังต่อไปนี้กันค่ะ

เลี้ยงลูกอย่างไรให้มีจิตใจเข้มแข็ง

ใช้ความรักของพ่อแม่

ความรักคือสิ่งทีชุบชูจิตใจ และหล่อหลอมเด็กคนหนึ่งรู้สึกว่าเขามีคุณค่าพอที่จะเป็นที่รัก จิตใจที่เข้มแข็งของลูกจะมีพื้นฐานมาจากการที่เขารู้สึกปลอดภัย และบ้านควรเป็นสถานที่แรกที่ทำให้ลูกรู้สึกแบบนั้น พ่อแม่ควรมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เมื่อความรักของพ่อแม่เต็มแล้วก็จะไหลมาสู่ลูกโดยไม่รู้ตัว

ความรัก ความปลอดภัยนี้เองที่จะทำให้ลูกมีพื้นฐานของความมั่นคงทางจิตใจที่ดี เมื่อลูกต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรค เขาก็จะมั่นคงและไม่ซวนเซได้ง่าย

ใช้เวลาที่มีคุณภาพกับลูก

เวลาคุณภาพคือเวลาที่มีให้กันและกัน ให้เวลาในการรับฟังและรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของลูก ใช้เวลาเหล่านั้นในการฟูมฟักให้ลูกรู้สึกสึกว่าพ่อแม่พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเขา จะทำให้ลูกรู้สึกไว้วางใจและมั่นคง ส่งผลให้เป็นเด็กที่มองโลกในแง่ดี

ปลูกฝังระเบียบวินัย

ระเบียบวินัยคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกรู้จักควบคุมความต้องการของตัวเอง รู้จักที่จะทำตามกติกา ทำให้รู้ว่าการรอคอยคือสิ่งสำคัญ ก็จะทำให้มีความอดทน หากลูกไม่รู้จักรอคอย อยากได้อะไรต้องได้ ก็จะทำให้เป็นคนที่มีความอดทนทางอารมณ์ต่ำ ถ้ามีอะไรขัดใจก็จะทำให้หงุดหงิด มีปัญหาเวลาอยู่กับคนรอบข้าง

ฝึกให้ลูกทำอะไรได้ด้วยตัวเอง

พ่อแม่ไม่สามารถอยู่ค้ำฟ้า การสอนให้ลูกรู้จักช่วยเหลือตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถ และมีความภาคภูมิใจว่าเขาทำสิ่งต่างๆ ได้ อย่าคิดว่าลูกเป็นเด็กและต้องมีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือตลอด การไม่ยอมปล่อยให้ลูกลองทำอะไรด้วยตัวเอง จะทำให้เขาติดสบาย ไม่กล้าที่จะทำสิ่งใหม่ๆ

อย่าแก้ไขปัญหาแทนลูกทุกเรื่อง

เมื่อลูกเกิดปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ในแบบที่ประเมินแล้วว่าเขาสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้ พ่อแม่อาจลองปล่อยให้ลูกพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านั้นด้วยตัวเองดู เพื่อฝึกฝนทักษะการแก้ปัญหา (Problem-solving skill) เพราะถ้าลูกไม่เคยได้แก้ไขปัญหาด้วยตัวเองเลย พ่อแม่คอยแก้ปัญหาให้ตลอด เมื่อเจออุปสรรคก็จะไม่เข้มแข็งและท้อแท้ได้ง่าย

ให้ลูกเท่าทันอารมณ์ ความรู้สึกของตัวเอง

สอนให้ลูกรู้ว่าอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นต่างๆ ในชีวิตเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต่างต้องมี แต่ที่สำคัญคือการจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองให้เหมาะสม และรับรู้ให้ได้ว่าตัวเองรู้สึกแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นโกรธ ดีใจ เสียใจหรือผิดหวัง เพราะเมื่อยอมรับได้ การจัดการกับอารมณ์ก็จะเป็นไปอย่างเหมาะสม เช่น รู้ว่าโกรธแต่ก็จะไม่อาละวาด

แบบอย่างที่ดีที่สุดคือพ่อแม่

ลูกคือนักเลียนแบบ และพ่อแม่คือต้นแบบที่ใกล้ชิดลูกที่สุด การทำเป็นแบบอย่างให้ลูกเห็นจะทำให้เขาเรียนรู้ได้ดีมากกว่าคำพูด หากอยากให้ลูกมีจิตใจเข้มแข็ง พ่อแม่ก็ต้องมีจิตใจเข้มแข็งเช่นกัน เมื่อมีอุปสรรคต่างๆ เข้ามา แล้วพ่อแม่ก็จัดการได้อย่างเหมาะสม ถึงแม้ว่าผลที่ออกมาอาจจะดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่ก็สามารถผ่านพ้นไปได้ ลูกก็จะเห็นเป็นตัวอย่าง เมื่อเจอปัญหาบ้าง เขาก็พร้อมที่จะเรียนรู้และเชิญหน้า พร้อมกับยอมรับมันได้


ที่มา : www.parentsone.com